“ในสมัยอยุธยา เป็นแผ่นดินของนานาชาติที่เป็นสุวรรณภูมิของคนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายภาษา เป็นแผ่นดินแห่งโอกาส เป็นแผ่นดินแห่งการก่อร่างสร้างตัวของตนเอง และนำไปสู่การสร้างชาติได้”
ดร.ทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นักธุรกิจและนักวิชาการอิสระ โพตส์คลิป Tiktok เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2567 ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นคนไทยนั้น ควรจะใช้สิ่งใดในการประเมินคุณค่าของความเป็นคนไทย ซึ่งหลายคนตอบว่าตนเองเป็นคนไทยเพราะว่าเกิดในประเทศไทย
“แต่ถามว่าการที่คุณเป็นคนไทย แล้วเกิดในประเทศไทย แล้วใครที่ไม่ใช่จะต้องกวาดล้างให้หมดเนี่ย คุณรู้ไหมครับว่าในสมัยอยุธยา แผ่นดินสยามเนี่ย เป็นแผ่นดินของนานาชาติที่เป็นสุวรรณภูมิของคนหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายภาษา เพราะเป็นแผ่นดินแห่งโอกาส เป็นแผ่นดินแห่งการก่อร่างสร้างตัวของตนเอง และนำไปสู่การสร้างชาติได้
เราย้อนนึกไป จำได้ไหมครับว่าทุกคนมีแผ่นดินเกิด แผ่นดินอาศัย ณ ขณะนี้ เพราะเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว มีการแตกเป็นก๊กเป็นเหล่า ไม่ใช่เพราะคนไทยแตกแยกกัน แล้วใครละครับที่รวมชาติรวมแผ่นดิน?
พระเจ้าตากเป็นคนไทยหรือเปล่าครับ ? พระเจ้าตากหลาย ๆ คนก็คงจะเห็นว่ามีสุสานจีนอยู่ที่ฝั่งของประเทศจีนด้วย เพราะฉะนั้นอย่าอ้างอย่าพูดว่าแผ่นดินไทยเป็นของคนไทย เพราะคนไทยด้วยกันแตกแยกกันเอง จนกระทั่งมีลูกครึ่งชาวจีน คือพระเจ้าตากมาสร้างบ้านสร้างเมืองให้กับเรา
ฉันใดก็ฉันนั้นครับ ปัจจุบันเรามีหลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายภาษาเข้ามาทำงานด้วย ถ้าคนไทยไม่เลือกงานก็ไม่ยากจน และถ้านายจ้างเขาจะเลือกใคร มันก็เป็นสิทธิของนายจ้าง เพราะถ้ามีคนแบบนี้ การนำเอาพี่น้องชาวลาว กัมพูชา พม่ามาเป็นลูกจ้าง ไม่เพียงแต่เป็นการทำบุญ แต่ว่าจะปกครองได้ดีกว่า เพราะคุยรู้เรื่องมากกว่า
กับคำถามที่ว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า เพราะบางคนเป็นคนไทยที่ไร้ประโยชน์ และถ้าหากว่าเราไม่ดูแลกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งมีจำนวนกว่า 3 ล้านคน เราไปข่มเหงรังแกเขา ไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า ความเคียดแค้นเกลียดชังนี้จะนำมาสู่ปัญหาภายในประเทศไทย เราควรจะต้องสร้างมิตร และดูแลเขา ปกป้องดูแลเขา เพื่อป้องกันประเทศไทย”
ดร.ทันกวินท์ กล่าวตอบโต้ผู้ที่มีตั้งคำถามเขาจากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ซึ่งเขาได้นำเสนอเกี่ยวกับแรงงานเมียนมา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย และเขากล่าวว่าคนเหล่านี้นั้นเป็นแรงงานที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยว่าเป็นคนไทยหรือไม่
ด้วยการตั้งคำถามว่าคนเหล่านั้น เคยมีสำนึกรักบ้านเกิดจริงหรือไม่ และเคยคิดหรือไม่ว่า ถ้าหากไปกดขี่ข่มเหงเขามาก ๆ จนคนเหล่านั้นลุกฮือขึ้นมา คนเหล่านั้นจะลุกขึ้นมาปกป้องประเทศหรือไม่ คนเหล่านี้นั้นเป็นเพียงกลุ่มคนที่หาโอกาสจากคำว่ารักชาติ ก่อนที่จะกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “รักชาติได้ แต่รักชาติอย่างมีสมองด้วยนะครับ”