
จ่อเอาผิดทักษิณ อัยการสูงสุดแจงความคืบหน้าของคดีฟ้องทักษิณ ต้องสงสัยกระทำความผิดตามมาตรา 112
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2567 นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) แถลงข่าวความคืบหน้าในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา112
โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2559 สำนักงานอัยการสูงสุดได้รับสำนวนจากกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามทางเทคโนโลยี ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระราชินีและรัชทายาท และร่วมกันนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2559 ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ และประเทศไทยต่อเนื่องกัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 เจ้าพนักงานได้มีการแจ้งขอกล่าวหากับนายทักษิณแล้ว ซึ่งนายทักษิณปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา และยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสำนวนของพนักงานอัยการ พร้อมทั้งคำให้การและพยานของฝ่ายผู้ต้องหา ก่อนที่จะมีการพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่
ทั้งนี้มีแนวทางการดำเนินการได้ 3 แนวทางได้แก่
1 สั่งสอบเพิ่ม หากมีประเด็นต้องสอบสวนให้กระจ่าง สิ้นความสงสัย
2 สั่งฟ้อง หากสำนวนพร้อมสมบูรณ์ และยืนตามความเห็นเดิม
3 สั่งไม่ฟ้อง หากหลักฐานพบว่าผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้กระทำผิด
ด้านนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าพนักงานได้มีการแจ้งไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อการอายัดตัวนายทักษิณ และได้รับการตอบรับมาแล้วเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 ซึ่งคดีนี้หากมีการพักโทษ ทางเรือนจำจะต้องแจ้งไปยังพนักงานสอบสอนให้มารับตัวนายทักษิณไว้มาดำเนินการควบคุม ซึ่งจะมีการพิจารณาว่าจะปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นพนักงานสอบสวน หรือนำตัวไปขอศาลฝากขังอีกครั้ง