ปรับกฎรองรับ เรือสำราญขนาดใหญ่ ‘กรมเจ้าท่า’ ปรับหลักเกณฑ์การอนุญาตเรือ Super Yacht ผลักดันไทยเป็นฮับท่องเที่ยวทางน้ำในภูมิภาคเอเชีย
“เจ้าท่า” ปรับกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตเรือสำราญและกีฬาขนาดใหญ่ (Super Yacht)ให้ทันสมัย – สร้างรายได้เพิ่ม – หนุนไทยเป็นฮับท่องเที่ยวทางน้ำในภูมิภาคเอเชีย
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่า (จท.) ได้ปรับปรุงประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตให้เรือสำราญและกีฬาขนาดใหญ่ (Super Yacht) ของบุคคลผู้ไม่ต้องด้วยลักษณะที่จะถือกรรมสิทธิ์เรือไทยทำการค้าในน่านน้ำไทย ตามมาตรา 47 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติเรือไทย พ.ศ. 2481
เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายของกระทรวงคมนาคมในการส่งเสริมการประกอบธุรกิจ Super Yacht โดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก (World Maritime Destination Hub)
ทั้งนี้ ประกาศฯ เริ่มใช้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2558 เป็นต้นมา ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายให้ปรับปรุงระเบียบ ข้อบังคับ และประกาศต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน การอนุญาตให้ Super Yacht เข้ามาทำการค้าในน่านน้ำไทยได้ จะช่วยดึงดูดการท่องเที่ยวทุกระดับ
ซึ่งเป็นการกระตุ้นการลงทุนในภาคธุรกิจ สร้างรายได้ให้กับประเทศ สร้างงานให้กับประชาชนในพื้นที่ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำและเรือสำราญในภูมิภาคเอเชีย (Marina Hub Of Asia)
นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงประกาศดังกล่าว ได้ปรับขนาดของ Super Yacht จากเดิมที่ต้องมีความยาวตั้งแต่ 30 เมตรขึ้นไป บรรทุกคนโดยสารได้ไม่เกิน 12 คน เป็นเรือที่มีขนาดตั้งแต่ 24 เมตรขึ้นไป บรรทุกคนโดยสารได้ไม่เกิน 12 คน เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
พร้อมทั้งกำหนดกรมธรรม์ประกันภัยให้เหมาะสมครอบคลุมตามมาตรฐานและหลักการประกันภัยทางทะเลที่มีวงเงินคุ้มครองความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อครั้ง หรือ 171 ล้านบาทต่อครั้ง
ทั้งนี้ สามารถยื่นขออนุญาตได้ผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้เอกสารประกอบคำขอได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ กำหนดกรอบระยะเวลาในการพิจารณาอนุญาตให้เสร็จสิ้นภายใน 25 วันทำการ