โลกที่ยุติธรรมนั้นเกิดขึ้นได้ แต่ต้องไม่มีสหรัฐฯ เพราะพวกเขาอยู่ข้างอิสราเอล เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐตุรกี วันที่ 10 ธ.ค. 2023

เมื่อวันเสาร์ (9 ธ.ค.) ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี วิพากษ์วิจารณ์คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ว่าได้กลายเป็น “ผู้พิทักษ์อิสราเอล” เนื่องจากอิทธิพลของรัฐบาลสหรัฐฯ

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ขวางการผ่านมติของ UNSC ที่เรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในฉนวนกาซา

“เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ใช้สิทธิวีโต้ (Veto) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจึงไม่สามารถบรรลุการตัดสินใจ… มันเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ” เออร์โดอัน เน้นย้ำระหว่างร่วมกิจกรรมวันสิทธิมนุษยชนโลกในอิสตันบูล

ผู้นำตุรกียังแย้งด้วยว่า โลกมีขอบเขตใหญ่โตมากกว่า 5 ชาติสมาชิกถาวรอันประกอบไปด้วย จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ ซึ่งมีอำนาจในการยับยั้งมติต่างๆ  

ผู้นำตุรกียังได้แสดงความผิดหวังต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยระบุว่า แม้ว่าตุรกีจะเป็นหนึ่งในพันธมิตรนาโตของสหรัฐฯ แต่ตุรกีได้สูญเสียความหวังและความคาดหวังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไปแล้ว

เออร์โดอัน กล่าวว่า ตั้งแต่ที่กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) เริ่มโจมตีฉนวนกาซาเพื่อตอบโต้การรุกรานของกลุ่มติดอาวุธฮามาสซึ่งสังหารผู้คนไปอย่างน้อย 1,200 ราย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติซึ่งมีภารกิจในการสร้างสันติภาพโลก ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์อิสราเอล

“รัฐบาลอิสราเอลซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างไม่สั่นคลอนจากประเทศตะวันตก กำลังก่อเหตุสังหารโหดและการสังหารหมู่ในฉนวนกาซา… โลกที่ยุติธรรมนั้นเกิดขึ้นได้ แต่ต้องไม่มีสหรัฐฯ เพราะพวกเขาอยู่ข้างอิสราเอล” ผู้นำตุรกี ระบุ

ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซา เผยยอดผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการต่างๆ ของอิสราเอลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 17,700 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 48,800 คน

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายฉีกสัญญาหยุดยิงและเดินหน้าสู้รบกันต่ออีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค. สหรัฐฯ ได้ใช้สิทธิวีโต ขวางมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่เรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในทันทีเมื่อวันศุกร์ (8 ธ.ค.) ในขณะที่ 13 ชาติสมาชิกโหวตสนับสนุน ส่วนอังกฤษงดออกเสียง

โรเบิร์ต วู้ด รองเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ อ้างว่าการหยุดยิงจะเปิดทางให้กลุ่มฮามาสคงการควบคุมฉนวนกาซา และเพาะเมล็ดพันธุ์สำหรับสงครามครั้งต่อไป พร้อมกับระบุว่า สหรัฐฯ อยากเห็นสันติภาพที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของข้อตกลงสองรัฐ แต่กลุ่มฮามาสไม่ปรารถนาในหนทางดังกล่าว

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แสดงความยินดีต่อการวีโต้ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า เป็นการแสดงจุดยืนที่ถูกต้องของสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ ยังได้วิพากษ์วิจารณ์บรรดาสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอื่นๆ ที่สนับสนุนการหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสนับสนุนการกำจัดกลุ่มฮามาส พร้อมกับการเรียกร้องให้ยุติสงครามกับกลุ่มฮามาส