
เลิกปล่อยคาร์บอน 7 ประเทศในยุโรปให้คำมั่นว่าจะกำจัดโรงไฟฟ้าปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากระบบในปี 2578
ออสเตรีย เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ ให้คำมั่นเมื่อวันจันทร์ (18 ธ.ค.) ที่จะกำจัดโรงไฟฟ้าที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากระบบภายในปี 2578
หากนำมาคำนวณรวมกัน ประเทศทั้ง 7 นี้ คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของการผลิตไฟฟ้าของสหภาพยุโรป โดยเฉพาะ เยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดสองรายของยุโรป
ทั้ง 7 ประเทศกล่าวในแถลงการณ์ร่วมว่า มาตรการด้านสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรปที่มีอยู่มีแนวโน้มที่จะนำพายุโรปไปสู่ภาคพลังงานที่เกือบจะปราศจากคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2583 พร้อมกับระบุว่า การตกลงที่จะเดินหน้าร่วมกันเร็วขึ้น จะช่วยให้พวกเขาร่วมกันวางแผนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้แน่ใจว่ามีโครงข่ายไฟฟ้าข้ามพรมแดนและแหล่งกักเก็บพลังงานที่เพียงพอ
ข้อมูลจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมยุโรป (European Environment Agency: EEA) ระบุว่า โดยรวมแล้วพลังงานหมุนเวียนสร้างกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศในยุโรป 41% ในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตไฟฟ้านั้นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างประเทศต่างๆ
ตัวอย่างเช่น 3 ใน 4 ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศออสเตรียมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ฝรั่งเศสมีสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าที่ปราศจากคาร์บอน กว่า 70% ในขณะที่โปแลนด์ซึ่งอุดมด้วยถ่านหิน มีการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้มข้นมากที่สุดในบรรดาประเทศในสหภาพยุโรป
“เอมเบอร์” (Ember) ซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองในประเด็นพลังงาน ระบุว่า มีความไปได้ที่ทั่วทั้งยุโรปจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกือบหมดภายในปี 2578 โดยลมและแสงอาทิตย์จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 80% ภายในช่วงดังกล่าว
Ember ยังระบุด้วยว่า การดำเนินการนี้จะต้องมีการลงทุนล่วงหน้าในแหล่งพลังงานหมุนเวียนและโครงข่ายไฟฟ้าสูงถึง 7.5 แสนล้านยูโร (ราว 28.65 ล้านล้านบาท) แต่ภายในปี 2578 ประเทศต่างๆ จะสามารถประหยัดเงินโดยรวมได้เมื่อเทียบกับแผนปัจจุบัน
(1 ยูโร = 38.21 บาท)