
“เนสท์เล่” รุกใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า 100% มุ่งเป้า Net Zero 2050 เดินหน้านำร่อง 2 คันปี 66
จากปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้องค์กรสหประชาชาติเรียกร้องให้ทุกภาคีเครือข่ายทั่วโลกร่วมมือกันในการหยุดยั้งปัญหาโลกร้อน พร้อมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโลกควบคู่กัน อีกทั้งรัฐบาลไทยให้การส่งเสริมการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ผ่านโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบาย 30@30
เนสท์เล่ โกลบอล ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าหมายลดคาร์บอนฟุตปรินท์ เพื่อมุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ใน ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) และใช้แนวทางแบบองค์รวมในการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงจุดต่างๆ ระหว่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น การดูแลน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ และสิทธิมนุษยชน
เพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายนี้ นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า เนสท์เล่จะดำเนินการใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า 100% (EV truck) เพื่อขนส่งสินค้าด้วยพลังงานสะอาดในระบบโลจิสติกส์ของเนสท์เล่ ประเทศไทย
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้รถบรรทุกขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% นำร่อง 2 คันในปี 2566 โดยจะวิ่งเส้นทางระหว่างโรงงานผลิต ศูนย์กระจายสินค้า ไปจนถึงร้านค้าพันธมิตร ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ประมาณ 230 ตันต่อปี
เพื่อการสนับสนุนกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนสิ่งดีเพื่อโลก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์และการดําเนินงานของบริษัทเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืน โดยเฉพาะในด้านของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตและการขนส่งสินค้า สอดคล้องกับเป้าหมายการเดินหน้าสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ในปี ค.ศ. 2050