ค้านคว่ำบาตรรัสเซีย! ‘สี จิ้นผิง’ ชี้กระทบหนัก ทั้งห่วงโซ่อุปทานและระบบเศรษฐกิจโลก
สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน กล่าวย้ำเป็นนัยถึงจุดยืนของจีนเรื่องการคัดค้าน ‘การคว่ำบาตรฝ่ายเดียว’ และ ‘เขตอำนาจศาลระยะยาว’ (Long Arm Jurisdiction) ในการปราศรัยวันที่ 21 เม.ย.2565 โดยไม่ได้กล่าวพาดพิงชาติตะวันตกกรณีลงโทษรัสเซียปมรุกรานยูเครนโดยตรง
ทั้งนี้ จีนได้วิจารณ์การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกมาโดยตลอด รวมถึงการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งนี้ด้วย แต่จีนก็ระมัดระวังที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือต่อรัสเซีย ที่อาจทำให้จีนโดนหางเลขด้วย
ในการกล่าวสุนทรพจน์ผ่านวีดีโอในงานประชุมเอเชียโป๋อ่าวที่จัดขึ้นบนเกาะไหหลำทางตอนใต้ของจีน สี จิ้นผิง เตือนว่า ‘การแยกเศรษฐกิจหรือห่วงโซ่การผลิตออกจากอีกประเทศหนึ่ง’ และกลวิธีในการกดดัน เช่น การทำลายห่วงโซ่อุปทานนั้น เป็นวิธีการที่ไม่ได้ผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโลก
“จีน ต้องการผลักดันความคิดริเริ่มด้านความมั่นคงในระดับโลก ที่สนับสนุนหลักการของความมั่นคงที่ไม่แบ่งแยก” และ “เราควรรักษาหลักการความมั่นคงที่ไม่แบ่งแยก ด้วยการเสริมสร้างความมั่นคงที่มีโครงสร้างที่สมดุล มีประสิทธิผล และยั่งยืน และต่อต้านการสร้างความมั่นคงของชาติบนพื้นฐานของความไม่มั่นคงในประเทศอื่น ๆ” สี จิ้นผิง กล่าว
นอกจากนี้ สี จิ้นผิง ยังกล่าวว่า จำเป็นต้องมีความพยายามในการรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก แต่ยังกล่าวด้วยว่าเศรษฐกิจจีนสามารถฟื้นตัวได้ และแนวโน้มระยะยาวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับผลกระทบจากความพยายามเชิงรุกในการยับยั้งการแพร่กระจายของโควิด-19 โดยเฉพาะในนครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจีน
ในขณะที่ รัสเซียยืนกรานให้ชาติตะวันตกเคารพข้อตกลงปี 1999 ที่ยึดหลักการ ‘ความมั่นคงที่ไม่แบ่งแยก’ ซึ่งห้ามไม่ให้ชาติใดเสริมสร้างความมั่นคงของตัวเองด้วยการเบียดเบียนชาติอื่น
ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียแน่นแฟ้นขึ้น และจีนก็ปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียปมรุกรานยูเครน ซึ่งรัสเซียเรียกว่าเป็น ‘ปฏิบัติการพิเศษทางมทหาร’ แต่หันไปตำหนิการแผ่อิทธิพลไปทางตะวันออกของ NATO แทน