ครม.ไฟเขียวต่ออายุลดภาษีน้ำมันดีเซลต่ออีก 2 เดือน เริ่ม 21 ก.ค. นี้
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผย วันนี้ (12 ก.ค.) ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบต่ออายุลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง ‘ลิตรละ 5 บาท’ ต่อไปอีก 2 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค. – 20 ก.ย. 2565 เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจจากผลกระทบราคาน้ำมันแพง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้การต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 2 เดือนจะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาท (เดือนละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท)
ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ตามที่กระทรวงการคลังมอบหมายให้กรมสรรพสามิตดำเนินมาตรการเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพและต้นทุนในการประกอบกิจการต่าง ๆ โดยปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 โดยมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 กรกฎาคม 2565
แต่เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกผันผวนและยังคงทรงตัวในระดับสูง ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลปรับตัวสูงขึ้นจนกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนและภาคธุรกิจ ดังนั้น จำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีไปอีกระยะหนึ่งเพื่อช่วยลดระดับราคาขายปลีกของน้ำมันดีเซลไม่ให้สูงจนกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จึงเสนอปรับลดอัตราภาษีสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันประเภทน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 5 บาท ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ถึง 20 กันยายน 2565
อย่างไรก็ตาม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การใช้มาตรการภาษีดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการในระยะสั้น และถ้าหากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลยังคงใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกหลักในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
#TheStructure
#ภาษีสรรพสามิต #น้ำมันแพง #กระทรวงการคลัง
สภาอุตฯ แนะรัฐเร่งเปิด “เสรีพลังงานทางเลือก” หนุนเอกชนลงทุนผลิตไฟฟ้าใช้เอง มุ่งสู่การเป็น Net Zero
ปรับสัมพันธ์ ‘เยอรมนี-จีน’ เยอรมนีออกเอกสารยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ ชี้เยอรมันต้องการ ‘ลดความเสี่ยง’ ที่เกิดจากจีน จึงถึงเวลาแล้วที่จะทบทวนความสัมพันธ์ใหม่
อนุมัติงบทางการทหารให้ ไต้หวัน 1.82 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อยุทโธปกรณ์และรับการฝึกอบรมจากสหรัฐฯ
ศิราวุธ ภุมมะกสิกร
อดีตวิศวกรโครงการ ระดับผู้จัดการ จบปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล จาก พระจอมเกล้าธนบุรี และ โท ด้าน Advanced Manufacturing Engineering จาก University of South Australia มีความสนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ การเมือง และสวัสดิการสังคม